คลังเก็บหมวดหมู่: เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจ

ใครช้าอด “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 5 ถูกจองเต็ม 5.6 แสนสิทธิ์ใน 4 วัน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การเปิดให้ประชาชนจองใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 รวม 560,000 สิทธิ์/ห้อง

ตามที่รัฐบาลช่วยจ่ายค่าที่พักให้ 40% เพียงการเปิดจองได้เพียง 4 วันได้หมดลงแล้ว หลังจาก ททท.เปิดให้ใช้สิทธิ์จองห้องพักในวันที่ 7 มี.ค.66 เป็นวันแรก และได้ถูกจองครบในวันที่ 10 มี.ค.66 รวมมูลค่าการจองและชำระเงินเบื้องต้น 2,033 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่จ่ายโดยประชาชน 1,251 ล้านบาท และเงินที่รัฐบาลอุดหนุน 782 ล้านบาท

เศรษฐกิจ

ทั้งนี้ พบว่าจองไปกระจุกอยู่ที่แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมการเดินทางที่ชอบไปทะเลกันในช่วงหน้าร้อน โดยจังหวัดที่ถูกจองอันดับ 1 คือ ชลบุรี 368 ล้านบาท ตามมาด้วยประจวบคีรีขันธ์ 278 ล้านบาท เพชรบุรี 167 ล้านบาท ตราด 137 ล้านบาท ภูเก็ต 132 ล้านบาท ระยอง 121 ล้านบาท จันทบุรี 103 ล้านบาท กรุงเทพมหานคร 94 ล้านบาท กระบี่ 87 ล้านบาท และพังงา 82 ล้านบาท โดยรวม 10 จังหวัดแรกที่ถูกจองห้องพัก คิดเป็นมูลค่ารวม 1,575 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 2,016 ล้านบาท โดยรัฐช่วยจ่ายค่าห้องพัก 40% สูงสุด 3,000 บาทต่อห้อง ให้ใช้ 5 สิทธิ์/ห้องต่อคน และอี-วอชเชอร์ 600 บาทต่อวัน โดยให้ใช้สิทธิ์เดินทางท่องเที่ยววันแรก วันที่ 10 มี.ค.66 ถึงวันสุดท้าย 30 เม.ย.66 โครงการนี้มีเป้าหมายสร้างรายได้รวม 12,539 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ทางตรง 9,205 ล้านบาท และรายได้ทางอ้อม 3,334 ล้านบาท.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> BCP เข้าซื้อ ESSO (Thailand) โดยได้ราคาดี

BCP เข้าซื้อ ESSO

BCP เข้าซื้อ ESSO (Thailand) โดยได้ราคาดี

BCP เข้าซื้อ ESSO (Thailand) โดยได้ราคาดี

เข้าซื้อหุ้นและทำ tender offer หุ้นที่เหลือทั้งหมดของ ESSO

BCP เข้าซื้อ ESSO

เมื่อวันที่ 11 มกราคม คณะกรรมการของ BCP อนุมัติให้เข้าไปซื้อหุ้น 65.99% ใน ESSO จาก ExxonMobil Asia Holdings (ผู้ขาย) และทำ tender offer หุ้น ESSO ที่เหลืออีก 34.01% จากผู้ถือหุ้นส่วนน้อยหลังจากที่ซื้อหุ้นส่วนใหญ่จาก ExxonMobil เสร็จไปแล้ว 25-45 วัน ทั้งนี้ ESSO มีโรงกลั่น complex refinery กำลังการผลิต 174KBD และสถานีบริการน้ำมัน 780 สถานีในประเทศไทย และถือหุ้น 7.06% ใน Bangkok Aviation Fuel Services (BAFS.BK/BAFS TB) และอีก 21% ใน Thai Petroleum Pipeline (Thappline) โดยการเข้าไปซื้อ ESSO ครั้งนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น BCP ในการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น (AGM) และต้องดำเนินการเพื่อขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงพลังงาน (และอาจจะต้องถึงระดับคณะรัฐมนตรี) ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะดำเนินการซื้อหุ้น 65.99% ของ ESSO แล้วเสร็จภายใน 2H66

ได้ราคาดีในการเข้าไปซื้อ ESSO

BCP และ ExxonMobil ได้ทำข้อตกลงโดยราคาซื้อขายจะขึ้นกับกลไกการปรับราคาตามผลการดำเนินงานของธุรกิจเนื่องจากสภาวะของธุรกิจมีความผันผวน ซึ่งตามกลไกดังกล่าวจะยึดมูลค่ากิจการที่ 5.55 หมื่นล้านบาท (intrinsic value ของ ESSO Thailand) และชดเชยการแกว่งตัวของภาระหนี้สินสุทธิ, เงินทุนหมุนเวียน และรายการอื่นๆ ดังแสดงใน Figure 3 ทั้งนี้เพื่อให้เห็นภาพ ราคาซื้อหุ้น ESSOที่อิงจากข้อมูลใน 2Q65 จะอยู่ที่ 9.63 บาท/หุ้น และราคาที่อิงจากข้อมูลใน 3Q65 จะอยู่ที่ 8.84 บาท/หุ้น ดังนั้นเราจึงต้องติดตามผลการดำเนินงานของ ESSO ใน 4Q65-2Q66 เพื่อกำหนดราคาซื้อขั้นสุดท้ายถ้าหากธุรกรรมการเข้าซื้อกิจการ ESSO จาก ExxonMobil แล้วเสร็จใน 3Q66 นอกจากนี้ BCP ยังมีแผนจะทำ tender offer เพื่อเสนอซื้อหุ้น ESSO จากผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ราคาเดียวกับที่เสนอซื้อหุ้นจาก ExxonMobil ในขณะเดียวกันเราคาดว่า BCP จะใช้เงินลงทุนประมาณ 3.1-3.5 หมื่นล้านบาทเพื่อเข้าซื้อหุ้น 100% ใน ESSO ดังนั้นสัดส่วนหนี้สินสุทธิ/ทุน (net debt/equity ratio) จึงจะเพิ่มขึ้นจาก 0.59x ใน 3Q65 เป็น 1.7x หลังการซื้อ ESSO ซึ่งเกือบจะชนเพดาน net debt covenant ของ BCP ที่ 2.0x ในขณะที่ BCPG Pcl. (BCPG.BK/BCPG TB)* ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ BCP ก็มีแผนลงทุนขนาดใหญ่ถึงประมาณ 3 หมื่นล้านบาทในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของ BCP ยังคงยืนยันว่าบริษัทจะไม่เพิ่มทุน

Valuation & action

เรายังเป็นห่วงดีลการเข้าไปซื้อ ESSO เพราะบริษัทพลังงานหลายแห่งตั้งเป้าจะขยับไปทำธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (green-energy) แต่ BCP กลับไปซื้อธุรกิจพลังงานฟอสซิล (โรงกลั่น) เพิ่มเข้ามาในพอร์ตของบริษัทแทน นอกจากนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตของ ESSO ยังค่อนข้างต่ำที่ 70-80% ซึ่งหมายความว่า BCP ต้องลงทุนเพิ่มเพื่อปรับปรุงคุณภาพโรงกลั่นของ ESSO หลังจากที่ดีลซื้อหุ้นเสร็จเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า BCP น่าจะซื้อ ESSO ได้ในราคาที่ค่อนข้างดีที่ประมาณ 3.1-3.5 หมื่นล้านบาท (เมื่อเทียบกับประมาณการกำไรของ ESSO ปี 2566F ที่ 5.7 พันล้านบาท และปี 2567F ที่ 7.2 พันล้านบาท) รวมถึงราคาซื้อสมมุติเบื้องต้นที่ 8.84-9.63 บาท/หุ้น (ต่ำกว่าราคาเป้าหมายปีนี้ของ ESSO ที่เราประเมินไว้ที่ 14.10 บาท) ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำซื้อ BCP โดยยังคงราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2566 เอาไว้เท่าเดิมที่ 41.00 บาท ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมมูลค่าที่จะเข้าซื้อหุ้น ESSO ซึ่งคาดว่าจะได้ราคาดี เข้าไปในราคาเป้าหมายของ BCP

อ่านข่าวเศรษฐกิจที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : เพิ่มเงินบัตรคนจน 200 บ. 1 เดือน ครม.อนุมัติสารพัดลดหย่อนภาษีส่งท้ายปีเสือ

เศรษฐกิจ

เพิ่มเงินบัตรคนจน 200 บ. 1 เดือน ครม.อนุมัติสารพัดลดหย่อนภาษีส่งท้ายปีเสือ

เพิ่มเงินบัตรคนจน 200 บ. 1 เดือน ครม.อนุมัติสารพัดลดหย่อนภาษีส่งท้ายปีเสือ

เศรษฐกิจ

ครม.อนุมัติส่งท้ายปีเสือสารพัดมาตรการลดหย่อนทั้งภาษีรักษ์โลก-บริจาคสถาบันการศึกษา-ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะให้ สสว.เพิ่มวงเงินบัตรคนจนอีก 200 บาท/ คน เป็นระยะเวลา 1 เดือน ในเดือน ม.ค.2566 ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเกษตรกร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (27 ธ.ค.65) ได้เห็นชอบมาตรการภาษีสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุข้อเสนอการมีความร่วมการลดก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในปี 2573 ประกอบด้วย 1.มาตรการส่งเสริมโครงการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่เกิดจากการขายคาร์บอนเครดิตในประเทศ โดยบริษัทจะต้องขึ้นทะเบียนไว้กับองค์การบริหารจัดการเรือนกระจก (องค์การมหาชน) จะมีผลตั้งแต่วันพระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2570 หรือ 3 รอบบัญชีต่อเนื่อง 2.มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมโครงการภาษีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้กรมป่าไม้ให้นำเงินบริจาคมาหักลดหย่อนภาษีได้ และต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566-31 ธ.ค.2570 โดยหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่นๆแล้ว

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนผู้บริจาคให้แก่สถานศึกษา ผ่านระบบ e-Donation ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565-31 ธ.ค.2567 ให้ได้รับสิทธิหักลดหย่อนหรือหักรายได้ 2 เท่า เพื่อให้เอกชนและประชาชนมีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดการศึกษาของประเทศ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้บริจาคในการลดภาระการจัดเก็บเอกสาร โดยการบริจาคให้สถานศึกษาที่จะได้สิทธิลดหย่อนหรือหักรายจ่าย 2 เท่า คือ 1.สถานศึกษารัฐ 2.โรงเรียนเอกชนแต่ไม่รวมโรงเรียนนอกระบบ 3.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน 4.สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศ ไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนาญพิเศษแห่งสห ประชาชาติ 5.สถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในส่วนการให้กู้ยืมเงินตามโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รายย่อยให้กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่ให้กู้เงินผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ขาดสภาพคล่อง และเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)

อัพเดทข่าวเศรษฐกิจ มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม : อ่างทอง เร่งเสริมกระสอบทรายป้องกันเขตเศรษฐกิจ

ด้านเศรษฐกิจ.

อ่างทอง เร่งเสริมกระสอบทรายป้องกันเขตเศรษฐกิจ

อ่างทอง- เทศบาลเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร เร่งเสริมกระสอบทรายเสริมตามจุดเสี่ยงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ป้องกันเขตเศรษฐกิจ 

เศรษฐกิจโลก

วันที่ (12 ก.ย.) หลังจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง ได้มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางเทศบาลเมืองอ่างทองได้ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารราบที่31 รักษาพระองค์ จังหวัดลพบุลี ทำการกรอกกระสอบทราย ที่บริเวณวัดสนามชัย ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง

เพื่อนำไปเสริมตามจุดเสี่ยงริมเขื่อนกั้นน้ำ พร้อมเร่งเดินเครื่องสูบน้ำทำการสูบระบายน้ำ เพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจที่สำคัญในตัวเมือง ไม่ให้กระทบกับพี่น้องประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อน หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้เพิ่มการระบายน้ำในวันนี้ 1,748 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าสถานี C.7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เมื่อเวลา 13.00 น. มีระดับอยู่ที่ 7.09 เมตร จากระดับตลิ่ง 10 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,600 ลบ.ม./วินาที

ซี.พี. อินเตอร์เทรด คว้ารางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจ

ซี.พี. อินเตอร์เทรด คว้ารางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นองค์กรสีขาว ยึดมั่นกฎเกณฑ์ โปร่งใส

ธุรกิจ

นายฐิติ ลุจินตานนท์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด ขึ้นรับหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจประจำปี 2564 (Good Governance Standards 2021) จากนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.กระทรวงพาณิชย์ ภายในงานเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลประจำปี 2564 และ 2565 ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้น โดยในการจัดงานครั้งนี้มีธุรกิจรายใหม่ที่ผ่านเกณฑ์รับรอง ทั้งหมด 40 ราย ประกอบด้วย ธุรกิจที่ผ่านการรับรองฯ ปี 2564 จำนวน 24 ราย และธุรกิจที่ผ่านการรับรองฯ ปี 2565 จำนวน 16 ราย

ทั้งนี้ ปี 2564 เป็นปีแรกที่ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด ได้รับการรับรองดังกล่าว อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามระเบียบและกฎเกณฑ์มาตรฐาน จรรยาบรรณธุรกิจ ความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยตระหนักในความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และคู่ค้า อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิ๊กได้เลย >>> clubbetonline.com